น้ำทิพย์ชโลมใจ

ฉันกับเพชรร่วมหุ้นกันเปิดร้านขายรองเท้ามือสอง ซึ่งรับมาจากเจ้าใหญ่ โดยก่อนที่เราจะเปิดขาย เราเป็นลูกค้ามาก่อนและเห็นว่า ร้านเจ้าใหญ่นี้ราคากลางๆ พอรับได้ สภาพของก็ดีใช้ได้ทีเดียว มีให้เลือกเยอะแยะด้วย เมื่อมั่นใจ เราจึงลงหุ้นและเช่าหน้าร้านเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับตลาดนัด เพื่อจะได้ขายทั้งวันปกติและวันที่ตลาดนัดเปิดด้วย ช่วงแรกกิจการของเราไปได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะวันที่ตลาดนัดเปิด มีลูกค้ามาเลือกซื้อมากมาย แต่ครั้นเจอวิกฤตโรคระบาด ตลาดนัดหยุดขาย พวกเราก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลายตัว ตลาดนัดกลับปิดตัวถาวร เหตุนี้จึงทำให้เราขาดรายได้และกิจการเงียบเหงา แต่ฉันกับเพชรก็ไม่ยอมแพ้พยายามคิดในทางบวกว่า สักพักทุกอย่างคงจะดีขึ้น
วันนี้ ฉันอยู่ร้านคนเดียว เนื่องจากเพชรออกไปทำธุระให้ครอบครัว ตั้งแต่เช้าจนบ่ายเพิ่งเปิดบิลไปแค่คู่เดียว แล้วฉันก็นั่งหงอยๆ เหงาๆ อยู่กับที่ทั้งวัน กระทั่ง ข้อความในไลน์ดัง ฉันจึงเปิดดู เพชรส่งข้อความมาบอกว่า ‘แกมีคนแนะนำหนังใหม่ออนไลน์ แกเปิดดูฆ่าเวลาสิ เผื่อจะได้ไม่เหงา’ ข้อความของเพชรเป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมลงบนต้นไม้ที่เกือบจะเหี่ยวแห้งตายให้กระเตื้องฟื้นขึ้น ฉันรีบทำตามคำแนะนำของเพชรอย่างไม่ต้องการจะปล่อยเวลาให้ผ่านไป ทันทีที่เปิดดู ฉันก็รู้สึกค่อยๆ ผ่อนคลาย จากที่หัวใจห่อเหี่ยว มันก็เริ่มมีอารมณ์ร่วมกับภาพเคลื่อนไหว ยิ่งดูก็ยิ่งเพลิน จบเรื่องที่หนึ่ง ฉันก็ต่อเรื่องที่สองเลย เมื่อจบเรื่องที่สอง ความรู้สึกของฉันก็ดีขึ้น ปลอดโปร่งขึ้น แล้วฉันก็ได้รับข้อความทางไลน์จากเพชรอีกครั้ง ‘แกเป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม หายเหงาหรือยัง’ ฉันตอบเพชรไปว่า ‘ดีขึ้นทันตาเห็นเลยแก ขอบใจแกมาก ถ้าแกมาอยู่ร้าน เราดูด้วยกันนะ’ รูปสติ๊กเกอร์โอเคเด้งพรวดมาแทนคำตอบของเพชร ทำเอาฉันยิ้มหน้าบานและสุดแสนดีใจที่เพื่อนคอยเป็นห่วงเป็นใยเสมอ วันมะรืน เพชรก็จะกลับมาและคงจะเข้ามาที่ร้าน แล้วฉันจะได้ดูหนังกับเพชร ถึงฉันกับเพชรจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่หลายๆ อย่างเราไม่เหมือนกันเอาเสียเลย ฉันนั้นเป็นคนคิดมากและชอบเครียด แต่เพชรกลับเป็นคนสบายๆ เจอปัญหาก็แก้ไปทีละเปราะ หรือเพราะแบบนี้ เพราะเราสองคนแตกต่างกันจึงทำให้เราเข้าใจและยอมรับความต่างของกัน มิตรภาพเลยไม่กระทบกระเทือน
แล้วก็ถึงวันที่เพชรเข้ามาที่ร้านรองเท้าของเรา เพชรไม่วายจะเอาขนมของฝากมาให้ฉันเยอะแยะ ช่วงเช้าเราขายรองเท้ากันได้ห้าคู่ เราดีใจกันใหญ่ เพราะนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบสามสี่วันที่ขายได้เยอะ พอตกบ่ายก็เข้าอีหรอบเดิม ลูกค้าเงียบ ฉันจึงชวนเพชรบันเทิงกับหนังใหม่ออนไลน์ ซึ่งเพชรได้ตกลง จากนั้นฉันกับเพชรก็เพลิดเพลินพร้อมๆ กันจนไม่มีเรื่องเงินทองหรือการค้าอยู่ในหัว เราสองคนปล่อยให้ภาพเคลื่อนไหวทำหน้าที่มอบความสุขของมันไปเรื่อยๆ แล้วเราก็ทำหน้าที่เป็นผู้ดูที่ดีไปเรื่อยๆ เหมือนกัน หมดวัน เราก็ปลอดโปร่ง ก่อนจะแยกย้ายกัน ฉันได้พูดกับเพชรว่า ‘ขอบใจนะแก ถ้าไม่ได้ที่แกแนะนำในวันนั้น ฉันก็คงจะหงอยเหงาหดหู่ แกรู้ไหม แกเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจของฉันเลยนะ ขอบใจจริงๆ’ เพชรยิ้มสดใสและจับมือฉัน จากนั้นเราต่างคนก็ต่างกลับบ้าน